ยธ. ยัน ทักษิณ ยื่นขออภัยโทษเฉพาะราย หลังศาลฎีกาฯ ตัดสินคุก1ปี..!!
วันที่ 29 กันยายน 2568 มีรายงานข่าวว่า ภายหลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 ให้จำคุก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเวลา 1 ปีในคดีหมายเลขดำที่ 14 ความเคลื่อนไหวล่าสุดระบุว่า นายทักษิณได้ยื่นคำร้องขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายต่อกระทรวงยุติธรรมในวันถัดมา (10 กันยายน 2568)

ต่อมาเมื่อวันที่ 23 กันยายน กระทรวงยุติธรรม ภายใต้การกำกับของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มีมติ ยกฎีกาคำร้อง และส่งเรื่องต่อไปยัง สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลใหม่ โดยคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเมื่อวันที่ 19 กันยายน และเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณในวันที่ 24 กันยายน 2568 มีกำหนดแถลงนโยบายต่อรัฐสภาระหว่างวันที่ 29-30 กันยายน ก่อนเริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ
แหล่งข่าวระดับสูงในกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า นายทักษิณได้ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายจริง โดยการยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษถือเป็นสิทธิของผู้ต้องขังเด็ดขาดทุกคนที่จะสามารถดำเนินการได้ ซึ่งถือเป็นกระบวนการปกติ เช่นเดียวกับกรณีของ นางนาที รัชกิจประการ อดีต ส.ส. พรรคภูมิใจไทย ที่เคยยื่นขออภัยโทษเฉพาะรายขณะต้องโทษมาก่อนหน้านี้

สำหรับขั้นตอนการยื่นฎีกา เริ่มต้นจากผู้ต้องขังเด็ดขาด หรือบุคคลที่มีสิทธิ เช่น บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตร ยื่นคำร้องผ่านเรือนจำ/ทัณฑสถาน จากนั้นจะมีการสอบสวนเรื่องราว ทูลเกล้าฯ และรวบรวมเอกสารเพื่อส่งไปยัง กรมราชทัณฑ์ เพื่อสรุปข้อเท็จจริง ประกอบการพิจารณาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก่อนเสนอเรื่องต่อไปยัง สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงานองคมนตรี และเข้าสู่กระบวนการถวายฎีกาต่อไป
แหล่งข่าวยังระบุเพิ่มเติมว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบในกระบวนการนี้ไม่สามารถปิดกั้นหรือเก็บคำร้องไว้ได้ เมื่อมีคำร้องเข้ามาต้องดำเนินการเสนอความเห็นโดยลำดับชั้น ซึ่งความคิดเห็นของแต่ละหน่วยจะมีเพียง 2 ทางเลือกคือ เห็นควรอภัยโทษ หรือ เห็นว่าโทษทัณฑ์เหมาะสมแล้ว แต่การพิจารณาให้หรือไม่ให้พระราชทานอภัยโทษนั้น ถือเป็นพระราชอำนาจที่ไม่สามารถก้าวล่วงได้
กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า นายทักษิณเคยได้รับพระราชทานอภัยโทษมาแล้วเมื่อครั้งกลับเข้ากระบวนการยุติธรรมเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ซึ่งจากโทษจำคุก 8 ปี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณลดโทษเหลือ 1 ปีนั้น แหล่งข่าวชี้แจงว่า การยื่นขออภัยโทษเฉพาะรายสามารถกระทำได้อีก หากเป็นการดำเนินการในคดีอื่นหรือภายใต้สถานการณ์ใหม่
ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าผู้ร้องอาจมีการจัดเรียงเหตุผลประกอบใหม่ เพื่ออธิบายความจำเป็นในการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษในรอบล่าสุด ซึ่งแต่ละคำร้องจะมีรายละเอียดและพิจารณาตามเนื้อหาที่แตกต่างกันไป
สำหรับความคืบหน้าต่อจากนี้ ต้องรอติดตามผลการพิจารณาตามลำดับขั้นตอนจนถึงที่สุดว่าจะมีการพระราชทานอภัยโทษหรือไม่อย่างไร ซึ่งอยู่ในพระราชวินิจฉัยที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้
Comments
Post a Comment